หัวใจ อวัยวะสุดสำคัญ
การดูแลรักษา หัวใจ ให้แข็งแรง
“ หัวใจ ” นับว่าเป็นหนึ่งในอวัยวะที่สำคัญต่อทุกระบบภายในร่างกาย เพราะเหตุว่าหัวใจปฏิบัติภารกิจสูบฉีดเลือดที่อุดมไปด้วยออกสิเจนและก็สารอาหารไปหล่อเลี้ยงทั่วร่างกาย การที่พวกเรามีหัวดวงใจที่แข็งแรงจะช่วยทำให้อวัยวะส่วนอื่นของสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงตามไปด้วย เพราะมีสารอาหารไปหล่อเลี้ยงอย่างพอเพียง
นอกเหนือจากนั้น การที่พวกเรานั้นมีหัวดวงใจที่แข็งแรง UFABET ยังเป็นการบ่งถึงความรู้ความเข้าใจสำหรับการใช้งานร่างกายได้อย่างดีเยี่ยมอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการบริหารร่างกาย รวมทั้งการใช้สมองสำหรับการปฏิบัติงานอย่างเต็มเปี่ยม
เปลี่ยนแปลงความประพฤติช่วยทำให้หัวใจแข็งแรง
ความประพฤติการใช้ชีวิตและก็การกินอาหารส่งผลโดยตรงต่อร่างกายหัวใจ บาคาร่า รวมทั้งระบบต่างๆภายในร่างกายด้วย การที่คุณดำรงชีวิตอย่างเหมาะควรย่อมทำให้มีสุขภาพทางกายแล้วก็หัวใจที่แข็งแรง
โดยจะแบ่งได้ 4 หนทางกล้วยๆที่เพียงแค่ทำตามก็มีสุขภาพหัวใจที่แข็งแรง ดังต่อไปนี้
1.บริหารร่างกายบ่อยๆเพื่อหัวใจที่แข็งแรง
การบริหารร่างกายไม่ว่าจะด้วยแนวทางใดก็ทำให้ร่างกายมีความสมบูรณ์แข็งแรงได้ แม้กระนั้นการบริหารร่างกายเพื่อทำให้หัวใจแข็งแรงนั้น จำเป็นจะต้องทำบริหารร่างกายแบบใช้ออกสิเจน คาสิโน ขั้นต่ำโดยประมาณ 20-30 นาทีต่อครั้ง ขั้นต่ำอาทิตย์ละ 3 วัน ก็จะสามารถช่วยให้หัวใจของคุณแข็งแรงขึ้น
ขั้นตอนการออกแรงแบบใช้ออกสิเจนนั้น พินิจกล้วยๆจากการที่พวกเราจะมีลักษณะอาการเหนื่อย แม้กระนั้นยังสามารถกล่าวได้ตามธรรมดา แม้พวกเรามีเครื่องมือซึ่งสามารถวัดการเต้นของชีพจรขณะบริหารร่างกายได้ อัตราการเต้นของหัวใจที่ต้องเป็นเป็น 60-70% ของอัตราการเต้นของหัวใจสูงสุดนั่นเอง
2.เลือกทานอาหารบำรุงหัวใจให้แข็งแรง
ของกินที่ช่วยบำรุงรักษาหัวใจให้แข็งแรงมีอยู่นานัปการ วิธีการกินอาหารเพื่อช่วยทำให้หัวใจแข็งแรงแบบง่ายๆก็คือการทานอาหารเพื่อลดไขมันในเส้นโลหิต ดังต่อไปนี้
- กินอาหารไขมันต่ำ โปรตีนสูง อาทิเช่น เนื้อไม่ติด เนื้อไก่ เนื้อปลา JOKER โดยเฉพาะปลาสมุทร จะมีกรดไขมันที่ดีช่วยในประเด็นการลดไขมันในเส้นเลือดได้อีกด้วย
- ทานผักและทานผลไม้ให้เยอะขึ้น ของกินประเภทนี้ อุดมไปด้วยวิตามินแร่ แล้วก็ใยอาหาร ช่วยในเรื่อง ของการลดไขมันในเส้นโลหิต ลดการเสี่ยงสำหรับการเป็นโรคเส้นเลือดแล้วก็หัวใจ
- กินเมล็ดพืชไม่ขัดสีเสมอๆ ช่วยควบคุมความดันเลือด 2xl สล็อต ลดการเสี่ยงสำหรับในการเป็นโรคหัวใจได้อย่างดีเยี่ยม
- เลิกทานอาหารรสจัด อาทิเช่น รสเค็มจัด นอกเหนือจากที่จะก่อให้เกิดผลกระทบโดยตรงต่อไตแล้ว โซเดียมคลอไรด์ยังเป็นอีกหนึ่งต้นเหตุที่ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจอีกด้วย โดยจำนวนโซเดียมต่อวันไม่สมควรเกิน 2,300 มก. (เกลือ 1 ช้อนชา หรือ น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ)
- หลบหลีกไขมันไม่ดีที่เสี่ยงต่อสุขภาพ เป็นต้นว่า ไขมันจากสัตว์ที่อยู่ในรูปของน้ำมัน เนย หรือครีม ด้วยเหตุว่าเป็นแหล่งสำคัญของไขมันอิ่มตัวจำพวกไม่ดี และก็คอเลสเตอรอล รวมทั้งไขมันทรานส์ด้วย
- ลดหรืองดเว้นเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ JOKER GAMING เพราะว่าเป็นการเพิ่มอัตราเสี่ยงสำหรับการเป็นโรคหัวใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นอย่างกระทันหัน เพราะเครื่องดื่มกลุ่มนี้เมื่อดื่มเข้าไปแล้วจะพินิจได้ว่า เลือดจะสูบฉีดมากยิ่งกว่าธรรมดานั่นเอง
3.ความตึงเครียดเป็นต้นเหตุหนึ่งสำหรับการรังควานหัวใจ
ในตอนที่เครียดหรือหนักใจ หัวใจจะทำงานมากกว่าธรรมดา เพราะฉะนี้ความเคร่งเครียดก็เลยนับว่าเป็นปัจจัยหลักที่ลดความแข็งแรงของหัวใจลงโดยไม่ทันได้รู้สึกตัว
4.นอนพักให้เพียงแค่ก็ช่วยทำให้หัวใจแข็งแรง
การพักผ่อนหย่อนใจที่ยอดเยี่ยมเป็น การนอนสนิท Slot ซึ่งนับว่าเป็นจังหวะที่ดีเยี่ยมที่สุดที่ศีรษะจิตใจของพวกเราจะได้พักไปด้วย การนอนอย่างพอเพียง ก็เลยถือว่าเป็นการช่วยทำให้หัวใจของพวกเรากลับมาดำเนินงานได้อย่างเต็มสมรรถนะในวันต่อไปนั่นเอง
5.ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
สิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงหนึ่งของการเป็นโรคหัวใจเป็น เบาหวาน โดยเหตุนี้การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในระดับที่ดีจะช่วยลดการเสี่ยงของการเป็นโรคหัวใจได้
6.ควบคุมน้ำหนักตัวให้เข้าขั้นที่สมควร
การควบคุมน้ำหนักตัวนี้อาศัยการคำนวณดัชนีมวลร่างกาย (Body Mass Index) ซึ่งคำนวณดังสูตร
BMI = น้ำหนัก (กก.) / ความสูง (เมตร)2
โดยค่า BMI ที่สมควรจะอยู่ในตอน 18.5–24.9 กิโล/เมตร
เพราะเหตุใดถึงจำเป็นต้องตรวจหัวใจเสมอๆทุกปี?
พวกเราควรจะตรวจหัวใจเสมอๆทุกปี เพื่อเฝ้าติดตามสภาพการณ์ของหัวใจว่า ดำเนินงานได้ธรรมดาดีหรือเปล่า หรือมีเรื่องผิดปกติอะไรที่จะต้องได้รับการปรับปรุงแก้ไขหรือไม่ การที่ตรวจเจอความไม่ดีเหมือนปกติตั้งแต่เนิ่นๆจะช่วยทำให้การดูแลรักษาบรรลุเป้าหมายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ในเนื้อหานี้ จะแบ่งการตรวจร่างกายหัวใจออกเป็น 2 กรุ๊ปสำคัญๆเป็น การตรวจหัวใจพื้นฐานด้วยตัวเอง แล้วก็การตรวจหัวใจโดยหมอผู้ที่มีความชำนาญ
การตรวจหัวใจพื้นฐานด้วยตัวเอง
การตรวจหัวใจพื้นฐานด้วยตัวเองเป็นเพียงแค่การตรวจเบื้องต้นที่ไม่อาจจะการันตีได้ว่า หัวใจของคุณปฏิบัติงานธรรมดาจริงๆแต่ว่าก็สามารถพิจารณาอาการพื้นฐานได้ ถ้าเกิดคุณมีลักษณะเปลี่ยนไปจากปกติ Slot อย่าอยู่เฉย ให้รีบไปพบหมอเพื่อหาต้นเหตุที่แจ่มแจ้ง โดยการตรวจหัวใจพื้นฐานด้วยตัวเอง มี 3 แนวทางดังต่อไปนี้
- การประเมินความดันเลือด: ความดันเลือดนั้นมีผลต่อ ต่อระบบไหลเวียนเลือด ของหัวใจ ถ้าความดันเลือดธรรมดา ย่อมแปลว่าหัวใจมีทิศทางว่าดำเนินการธรรมดาออกจะสูง
- ค่าความดันธรรมดา ตัวบนจะอยู่ที่ 120 ส่วนตัวด้านล่างจะไม่เกิน 90 แต่ว่าแม้คุณมีความดันตัวบนสูงยิ่งกว่า 140 หรือตัวด้านล่างสูงขึ้นมากยิ่งกว่า 100 ควรจะรีบไปพบหมอในทันทีทันใด
- หากว่าความดันจะมิได้สามารถบอกความแข็งแรงของหัวใจโดยตรง แม้กระนั้นการที่มีความดันสูง มีความหมายว่า หัวใจกำลังทำงานมากเกินกว่าธรรมดา
- การประเมินอัตราการเต้นของหัวใจ: อัตราการเต้นของหัวใจในคนธรรมดาอยู่ที่ราวๆ 60-100 ครั้งต่อนาที ยิ่งหัวใจเต้นช้าเท่าใดก็ยิ่งแข็งแรงแค่นั้น (แต่ว่าหากช้าเกินความจำเป็นควรจะไปพบหมอ) เพราะว่าการที่ศีรษะใจเต้นช้า แปลว่า หัวใจบีบตัวเพียงแค่หนึ่งครั้งก็สามารถสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงได้ทั่วร่างกาย แม้กระนั้นถ้าคุณมีความคิดว่าหัวใจเต้นเร็วหรือช้าแตกต่างจากปกติเกินความจำเป็นก็ควรจะไปพบหมอเพื่อตรวจสุขภาพถัดไป
- พิจารณาจากอาการทั่วๆไป: ถ้าเกิดคุณไม่มีอาการอ่อนแรงง่าย หน้ามืดเวลาบริหารร่างกายหรือเดินขึ้นบันได ใจสั่น เป็นลมเป็นแล้งเสมอๆหรือเจ็บรอบๆทรวงอก ก็บางทีอาจสรุปกล้วยๆได้ว่า บางทีอาจปราศจากความไม่ปกติเกี่ยวกับหัวใจ เนื่องจากอาการพวกนี้ เป็นลักษณะของคนไม่สบายหัวใจนั่นเอง
การตรวจหัวใจโดยหมอผู้ชำนาญ
การตรวจหัวใจโดยหมอผู้ที่มีความชำนาญจะทำก็เมื่อหมอสงสัยว่าคุณอาจมีความผิดธรรมดาเกี่ยวกับหัวใจ เป็นต้นว่า หัวใจมีอัตราการเต้นที่เปลี่ยนไปจากปกติ หรือมีสภาวะของโรคหัวใจแล้วก็เส้นโลหิตที่บางทีอาจนำมาซึ่งภาวการณ์หัวใจวายได้ ซึ่งหมอจะใช้การทดลองหลายๆอย่างด้วยกัน เพื่อการวิเคราะห์ที่ถูกต้องแม่นยำ
โดยจะมีวิธีการทดลองหรือตรวจหัวใจ ดังต่อไปนี้
- การตรวจคลื่นสะท้อนความถี่สูงหัวใจ (Echocardiogram): เป็นการอัลตราซาวด์หัวใจโดยใช้คลื่นเสียงความถี่สูงสร้างภาพของหัวใจขึ้นมา เพื่อตรวจดูเนื้อหาหัวใจ
- การตรวจคลื่นกระแสไฟฟ้าหัวใจ (Electrocardiogram: ECG): การบันทึกกิจกรรมทางไฟฟ้าของหัวใจ ซึ่งผลพวงต่ออัตราการเต้นของหัวใจรวมทั้งระบบไหลเวียนเลือดโดยตรง
- การทดลองความทนทานต่อการบริหารร่างกาย (Exercise Tolerance Test: ETT): เป็นการบันทึกกิจกรรมของหัวใจช่วงเวลาที่จำเป็นต้องทำงานมากอยู่ อย่างเช่น ในเวลาที่คุณกำลังเดินอยู่บนทางวิ่ง เพื่อมองว่าหัวใจสนองตอบต่อการออกแรงอย่างไรบ้าง
- การทดลองความเอียง: สอดส่องความดันเลือด และก็อัตราการเต้นของหัวใจของคุณขณะนอนราบแล้วก็ขณะลุกขึ้นยืน เพื่อประเมินอาการหน้ามืดหรือตาลาย รวมทั้งเพื่อมองว่าลักษณะของคุณมีส่วนเกี่ยวข้องกับความดันเลือดหรือการเต้นของชีพจรไหม
- การถ่ายรูปสะท้อนแม่เหล็กไฟฟ้า (Magnetic Resonance Imaging: MRI): ใช้พลังงานแม่เหล็กที่ปลดปล่อยออกมาในสแกนเนอร์ เพื่อร่างภาพหัวใจรวมทั้งเส้นเลือดออกมา ขั้นตอนการตรวจนี้ใช้เพื่อตรวจค้นปัญหาด้านองค์ประกอบของหัวใจรวมทั้งการไหลเวียนของเลือด
- การเอกซเรย์คอมพิวเตอร์เส้นโลหิตหัวใจ (Cardiac Computed Tomography: Cardiac CT): จะใช้เครื่องเอกซเรย์ประเภทพิเศษที่เขยื้อนไปบริเวณร่างกายเพื่อได้ภาพจำลองหัวใจแบบ 3D ออกมา
- การสแกนด้วยทัลเลียม (Thallium scan): เป็นการสแกนเพื่อมองว่า เลือดออกไปยังกล้ามเนื้อหัวใจผ่านเส้นโลหิตหัวใจธรรมดาดีไหม โดยติดตามจากสารทัลเลียมที่ฉีดเข้าไป
- การฉีดสีเส้นโลหิตหัวใจ: เป็นการเอกซเรย์ชนิดหนึ่งที่ใช้ตรวจเส้นเลือดหัวใจที่ใช้ส่งเลือดไปยังกล้ามเนื้อหัวใจ โดยการฉีดสีเข้าไปแล้วมองการไหลเวียนของสี
- การวิเคราะห์เลือด: สามารถตรวจได้หลายประเภท ได้แก่ วัดระดับของเซลล์เม็ดเลือดและก็เกล็ดเลือด ระดับไขมัน คอเลสเตอรอล และก็กรดยูเรีย ซึ่งล้วนแล้วแต่มีผลต่อสุขภาพหัวใจทั้งหมด
กรรมวิธีการรักษาโรคหัวใจ
การดูแลและรักษาโรคหัวใจจะเริ่มจากการใช้ยารักษาโรคหัวใจ สล็อต ทุเลาอาการก่อน เว้นเสียแต่เป็นโรคหัวใจขาดเลือดจำพวกที่จำต้องได้รับการดูแลรักษาด้วยสวนหัวใจ หมอจะรักษาโดยการขยายเส้นเลือดหัวใจด้วยบอลลูน แล้วก็การดามขดลวด
ถ้าเกิดยาใช้รักษาไม่เป็นผล หมอจะประเมินคนไข้ว่า โรคและก็ระยะที่คนป่วยเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัดศรีษะหัวใจหรือเปล่า ไม่ว่าจะเป็นการซักความเป็นมาผู้เจ็บป่วย การทดลองหัวใจต่างๆที่ได้กล่าวไปแล้วตามข้างต้น รวมทั้งสุขภาพโดยรวม
การเสี่ยงสำหรับการผ่าตัดหัวใจ
ภาวะแทรกซ้อนซึ่งสามารถพบได้ทั่วไปจาก การผ่าตัดศรีษะดวงใจ มักเปลี่ยนไปตามชั่วโมงแล้วก็วัน โดยผู้เจ็บป่วยจะได้รับการตำหนิดตามดูแลเอาใจใส่ด้วยความใกล้ชิดจากกลุ่มหมอ ซึ่งมีภาวะแทรกซ้อนดังต่อไปนี้
- เลือดไหล: บางทีอาจเกิดขึ้นที่รอบๆแผลผ่าตัด หรือ ในรอบๆ ของหัวใจซึ่งมีการผ่าตัด
- หัวใจเต้นผิดจังหวะ: ในบางครั้งอาจมีการใส่เครื่องควบคุม การเต้นของชีพจร ด้านนอก ชั่วครั้งคราว เพื่อจัดการกับปัญหานี้
- หัวใจขาดเลือด: มีการทำลายเยื่อ หัวใจ จากการขาดเลือดที่ไหลไปสู่หัวใจ
- เสียชีวิต: การเสี่ยงของการตายจะมากขึ้น สำหรับการผ่าตัดที่มีการหยุดรูปแบบการทำงานของหัวใจ
- ลิ่มเลือด: บางทีอาจกำเนิดลิ่มเลือดรอบๆข้างในและก็บริเวณหัวใจ หรือบางทีอาจเขยื้อนไปตามกระแสโลหิต
- เส้นโลหิตในสมองตีบ: มักเกิดขึ้นจากการมีลิ่มเลือดที่เกิดขึ้นภายหลังจากการผ่าตัด
- การผ่าตัดรีบด่วน: ถ้ามีปัญหาเกิดขึ้นภายหลังการผ่าตัด บางทีอาจจะต้องมีการผ่าตัดรีบด่วนเพื่อจัดการกับปัญหากลุ่มนี้
- ภาวการณ์บีบหัวใจ (Cardiac tamponade): เป็นภาวการณ์ที่เยื่อห่อหัวใจมีเลือดอยู่ด้านใน ทำให้หัวใจปฏิบัติงานได้ยากขึ้นหรือดำเนินงานมิได้เลย รวมทั้งบางทีอาจเกิดอันตรายถึงชีวิต
อ่านบทความที่น่าสนใจ ถัดไป slotpgฟรีเครดิต
อัพเดทล่าสุด : 28 มิถุนายน 2021